เปิดบัญชีทดลอง Exness ประเทศไทย

บัญชีทดลอง Exness คืออะไรและใช้ประโยชน์อย่างไร

บัญชีทดลอง Exness ใช้เงินเสมือนแทนเงินจริง ช่วยให้ผู้ใช้ในประเทศไทยฝึกเทรดโฟเร็กซ์และ CFD โดยไม่เสี่ยงเงินทุนจริง บัญชีนี้มีคุณสมบัติเหมือนบัญชีจริงทุกอย่าง รวมถึงสเปรดเรียลไทม์และการดำเนินคำสั่งรวดเร็ว เรายังให้เงินเสมือนเริ่มต้นที่ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อใช้ในการเทรดที่ครอบคลุมสกุลเงินหลักและสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน และดัชนีหุ้น

บัญชีทดลองจะมีอายุ 30 วันและจะต่ออายุอัตโนมัติหากมีการใช้งานต่อเนื่อง ช่วยให้ท่านได้ทดลองกลยุทธ์ต่าง ๆ ศึกษาการใช้งานแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 พร้อมทดสอบ Expert Advisors ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด

วิธีสมัครบัญชีทดลองสำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย

การสมัครบัญชีทดลองกับเราทำได้ง่ายและรวดเร็ว ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที สามารถเข้าผ่านเว็บไซต์ Exness และเลือกเมนูเปิดบัญชีทดลอง ระบบจะขอข้อมูลพื้นฐาน เช่น อีเมลและรหัสผ่านโดยไม่ต้องยืนยันตัวตนหรือส่งเอกสารใด ๆ

ผู้ใช้ต้องระบุประเทศเป็นประเทศไทยและเลือกประเภทบัญชี เช่น Standard, Pro หรือ Raw Spread สามารถเปลี่ยนประเภทบัญชีได้ภายหลังตามความต้องการ เรามีขั้นตอนชัดเจนสำหรับการสมัครผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมือถือ

ขั้นตอนการสมัครผ่านเว็บไซต์

เข้าสู่เว็บไซต์ Exness คลิก “สมัครสมาชิก” กรอกอีเมลและรหัสผ่านที่มีความปลอดภัยสูง เลือกประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่อาศัย หลังจากนั้นระบบจะส่งอีเมลยืนยันให้คลิกเปิดใช้งาน จากนั้นเข้าสู่พื้นที่ส่วนตัวเพื่อสร้างบัญชีทดลอง เลือกประเภทบัญชีและแพลตฟอร์มที่ต้องการ

การสมัครผ่านแอปพลิเคชันมือถือ

ดาวน์โหลด Exness Trader จาก Google Play หรือ App Store เปิดแอปและลงทะเบียนด้วยอีเมลและรหัสผ่าน เลือกประเทศไทยและยืนยันอีเมล แอปจะสร้างบัญชีทดลองพร้อมเงินเสมือนให้ทันที รองรับฟังก์ชันการเทรดและการแจ้งเตือนราคาครบถ้วน ใช้งานง่ายสะดวกทุกที่

แพลตฟอร์มการเทรดที่รองรับบัญชีทดลอง

Exness รองรับบัญชีทดลองบนแพลตฟอร์ม MetaTrader 4, MetaTrader 5 และ Exness Terminal ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มมีฟีเจอร์และประสิทธิภาพแตกต่างกัน ผู้ใช้ในไทยสามารถเลือกตามความเหมาะสมและประสบการณ์การเทรด

MT4 เน้นความเรียบง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น รองรับ Expert Advisors และ Custom Indicators มากกว่า 2,000 ตัว ในขณะที่ MT5 มีเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น Economic Calendar และ Depth of Market ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวางคำสั่ง

MetaTrader 4 สำหรับบัญชีทดลอง

MT4 รองรับคู่สกุลเงินหลัก 40 คู่ พร้อมโลหะมีค่าเช่นทอง เงิน แพลตฟอร์มมี Technical Indicators กว่า 30 ตัว เช่น Moving Average, RSI, MACD ผู้ใช้สามารถปรับแต่งกราฟและวางคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว ความเร็วในการดำเนินคำสั่งอยู่ที่ 0.1-0.3 มิลลิวินาทีในตลาดปกติ

MetaTrader 5 และฟีเจอร์ขั้นสูง

MT5 รองรับการเทรดหุ้น CFD กว่า 100 ตัว ดัชนีหุ้นและสกุลเงินดิจิทัล มีฟีเจอร์ Depth of Market แสดงราคาซื้อขายแบบละเอียด รวมถึง Economic Calendar แสดงข่าวเศรษฐกิจแบบเรียลไทม์ ช่วยให้วางแผนเทรดรอบข่าวได้ดีขึ้น

ประเภทบัญชีทดลองและความแตกต่าง

บัญชีทดลองของเรามี 3 ประเภทหลัก คือ Standard Demo, Pro Demo และ Raw Spread Demo ซึ่งจำลองสภาพการเทรดจริงของแต่ละประเภท เพื่อให้ผู้ใช้ในไทยได้ทดลองก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีจริง

Standard Demo เหมาะสำหรับมือใหม่ มีสเปรดเริ่มต้น 1.0 pips ไม่มีค่าคอมมิชชั่น รองรับการเทรดขั้นต่ำ 0.01 lot ส่วน Pro Demo มีสเปรดต่ำกว่า 0.6 pips แต่มีค่าคอมมิชชั่น 3.5 ดอลลาร์ต่อ lot และ Raw Spread Demo มีสเปรดต่ำสุดถึง 0.0 pips แต่ค่าคอมมิชชั่นสูงสุดที่ 7 ดอลลาร์ต่อ lot

การเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสม

ผู้เริ่มต้นควรเริ่มจาก Standard Demo เพื่อเรียนรู้พื้นฐานและไม่มีความกังวลเรื่องค่าคอมมิชชั่น เมื่อชำนาญขึ้นจึงลอง Pro Demo เพื่อสัมผัสต้นทุนที่ต่ำกว่า ส่วนมืออาชีพสามารถทดลองทุกรูปแบบเพื่อเปรียบเทียบต้นทุนและสเปรดตามปริมาณการเทรด

เครื่องมือวิเคราะห์และตัวชี้วัดทางเทคนิค

บัญชีทดลองของเรามีเครื่องมือวิเคราะห์ครบถ้วน รวม Technical Indicators กว่า 40 ชนิด, Drawing Tools และ Chart Patterns ที่ช่วยให้ผู้ใช้ในไทยวิเคราะห์ตลาดได้อย่างมืออาชีพ เครื่องมือทั้งหมดใช้งานฟรีเหมือนบัญชีจริง

ตัวชี้วัดสำคัญได้แก่ Moving Average ที่มีรูปแบบ Simple, Exponential และ Weighted ช่วยระบุแนวโน้มราคา รวมถึง RSI ที่แสดงระดับ Overbought และ Oversold และ MACD ที่ใช้ตรวจสอบโมเมนตัมของราคา

การใช้งาน Drawing Tools

Drawing Tools ช่วยให้ผู้เทรดวาดเส้นแนวรับแนวต้าน เช่น Trend Line, Horizontal Line รวมถึงเครื่องมือ Fibonacci Retracement เพื่อหาระดับราคาสำคัญ เช่น 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8% และ 78.6% ที่ช่วยวางคำสั่ง Take Profit และ Stop Loss

นอกจากนี้ Rectangle และ Ellipse ใช้ระบุโซนราคาสำคัญ เช่น Consolidation หรือ Breakout Zone ผู้ใช้ยังตั้งการแจ้งเตือนได้เมื่อราคาขยับเข้าใกล้พื้นที่เหล่านี้ เพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำยิ่งขึ้น

การจัดการความเสี่ยงในบัญชีทดลอง

แม้บัญชีทดลองจะไม่เสี่ยงเงินทุนจริง แต่เราย้ำว่าการฝึกใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งจำเป็น ผู้ใช้ในไทยควรฝึกตั้ง Stop Loss และ Take Profit ในทุกการเทรด เพื่อสร้างนิสัยที่ดีสำหรับการเทรดจริง

Stop Loss จะช่วยปิดออเดอร์เมื่อขาดทุนถึงระดับที่กำหนด แนะนำตั้งไม่เกิน 2-3% ของเงินทุนในแต่ละการเทรด คำนวณโดยหารเงินทุนด้วย 33 หรือ 50 เพื่อหาขนาดความเสี่ยงที่เหมาะสม ส่วน Take Profit จะช่วยล็อกกำไรตามเป้าหมาย โดยแนะนำอัตราส่วน Risk:Reward อย่างน้อย 1:2

วิธีการเข้าถึงและใช้งานฟีเจอร์บัญชีทดลอง

การเข้าใช้งานบัญชีทดลองในแพลตฟอร์ม Exness ง่ายและสะดวก ผู้ใช้ในไทยสามารถล็อกอินเข้าสู่ Personal Area แล้วเลือกบัญชีทดลองที่สร้างไว้เพื่อเข้าสู่แพลตฟอร์ม MT4, MT5 หรือ Exness Terminal ได้ทันที

การวางคำสั่งทำได้โดยเลือกคู่สกุลเงินหรือสินค้าที่ต้องการ จากนั้นกำหนดจำนวนล็อต ระบุ Stop Loss และ Take Profit ตามแผน จากนั้นกด “Buy” หรือ “Sell” ระบบจะดำเนินคำสั่งภายในเวลา 0.1-0.3 มิลลิวินาทีในสภาวะตลาดปกติ

ข้อจำกัดและความต้องการระบบสำหรับบัญชีทดลอง

บัญชีทดลอง Exness รองรับการใช้งานบน Windows, Mac, Android และ iOS โดยต้องการระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 ต้องการหน่วยความจำอย่างน้อย 2 GB และพื้นที่ว่าง 100 MB

ในแง่ข้อจำกัด บัญชีทดลองไม่รองรับการฝากถอนเงินจริง และไม่สามารถใช้บริการฟีเจอร์บางอย่างเช่น VPS หรือฟังก์ชัน Copy Trading ในโหมดทดลองได้ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการเรียนรู้เท่านั้น